อารมณ์สองขั้ว
โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) คืออะไร เข้าใจ พร้อมรับมือ
โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นอาการหนึ่งทางโรคจิตเวชที่เกิดจากความผิดปกติทางอารมณ์ (Mood Disorder) ตามระบบการวินิจฉัยโรค โดยจะมีช่วงอารมณ์สุดขั้วแบบร่าเริงและซึมเศร้าสลับกัน ซึ่งผู้ป่วยโรคไบโพลาร์จะประสบปัญหาจากอาการของโรค ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์กับผู้อื่น และความสามารถในการทำงาน
สาเหตุของเกิดโรคไบโพลาร์
สาเหตุของการเกิดอาการไบโพลาร์ ในเบื้องต้นทางการแพทย์อาจยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุเดียว หรือหลายสาเหตุร่วมกัน แต่สามารถแบ่งออกได้ 6 สาเหตุหลัก ๆ โดยเกิดทั้งจากปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอก และพฤติกรรมของแต่ละบคุลล ดังนี้
- ความผิดปกติของการหลั่งสารสื่อประสาทของสมองส่วนหน้า (Neurotransmitters) เช่น สารเซโรโทนิน (Serotonin) สารโดพามีน (Dopamine) สารเมลาโทนิน (Melatonin) สารนอร์อะดรีนาลิน (Noradrenaline หรือสารนอร์อิพิเนฟริน Norepinephrine) ที่ไม่สมดุลกัน ส่งผลทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของเซลล์สมองในส่วนที่ควบคุมระดับอารมณ์ จนทำให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวนได้
- พันธุกรรม โดยผู้ป่วยอาจมีประวัติบุคคลในครอบครัวเดียวกันที่ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ หรือโรคทางจิตเวชอื่น ๆ มาก่อน เช่น โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้น ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคอารมณ์สองขั้วได้
- ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงทางจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสีย การเลิกรา หรือความผิดหวัง เสียใจอย่างรุนแรง รวมไปถึงความบอบช้ำทางจิตใจ การถูกทำร้าย จนกลายเป็นอาการเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจแบบเรื้อรัง
- อาการป่วยจากโรคบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคไทรอยด์ ที่ทำให้เกิดความผิดปกติทางฮอร์โมน ส่งผลต่อการหลั่งสารสื่อประสาท ทำให้ไม่สามารถจัดการอารมณ์ได้ มีอาการอารมณ์แปรปรวน
- ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด คุณแม่หลายท่านอาจเคยเผชิญกับ “ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด” ซึ่งฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอด จะส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม ในบางรายอาจทำให้ป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ได้
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การอดนอน โหมทำงานหนัก จนเกิดภาวะเครียดสะสม ซึ่งอาจเป็นต้นตอที่ทำให้กลายเป็นโรคทางจิตเวช และโรคไบโพลาร์ได้
อาการของโรคไบโพลาร์
อาการไบโพลาร์ในเบื้องต้นจะมีความแตกต่างกันในแต่ละคน โดยจะมี 2 กลุ่มขั้วอารมณ์ที่ใช้แบ่งลักษณะอาการอย่างชัดเจน คือ กลุ่มอารมณ์ดีสุดขั้ว (Mania) และกลุ่มซึมเศร้า (Depression) โดยระยะเวลาในการแสดงอาการของแต่ละขั้วอาจยาวนานหลายวัน หรืออาจยาวนานหลายสัปดาห์ สามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้
กลุ่มอารมณ์ดีสุดขั้ว (Mania)
- คึกคัก มีกำลังวังชา
- มีความคิดพรั่งพรู พูดมาก
- หงุดหงิดง่าย
- เชื่อมั่นในตัวเองสูง
- ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
- มีอารมณ์ทางเพศสูง
กลุ่มซึมเศร้า (Depression)
- รู้สึกเศร้า ไม่มีความหวัง ไม่มีคุณค่า หรือรู้สึกผิด
- มีปัญหาการนอนหลับ
- ไม่อยากพบใคร ไม่อยากทำอะไร
- พฤติกรรมการกินเปลี่ยน
- คิดช้า ไม่มีสมาธิ
- คิดลบ
- มีความคิดอยากตาย
ประเภทของอาการไบโพลาร์
- Bipolar I Disorder ลักษณะอารมณ์ดี (Mania) หรือก้าวร้าวรุนแรงแบบสุดโต่ง สลับกับกลุ่มซึมเศร้า (Depression) รุนแรง
- Bipolar II Disorder ลักษณะของกลุ่มซึมเศร้า (Depression) ร่วมกับกลุ่มอาการก้าวร้าว หรืออารมณ์ดีแบบไม่รุนแรง ซึ่งไม่มีอาการของกลุ่มอารมณ์สุดโต่งเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยช่วงเวลาซึมเศร้า และช่วงอารมณ์ทางบวกจะอยู่ไม่นาน ใช้เวลามากสุดเป็นหลักวัน จากนั้นอารมณ์จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
- Cyclothymic Disorder โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้วแบบไซโคลไทมิก มีลักษณะอาการทางบวกแบบไม่สุดโต่ง ผสมกับอาการซึมเศร้าแบบอ่อน ๆ โดยอาการของอารมณ์มักไม่คงที่ และเป็นเรื้อรังไม่ต่ำกว่า 2 ปี
- โรคไบโพลาร์แบบระบุได้และระบุไม่ได้อื่น ๆ (Other Specified and Unspecified Bipolar) โดยเป็นลักษณะอาการที่ไม่เข้าข่ายทั้งสามประเภทด้านบน แต่จะแสดงออกเป็นอารมณ์แปรปรวนแบบผิดปกติ สลับไปมาที่อาจเข้าข่ายว่าเป็นโรคไบโพลาร์ประเภทอื่น ๆ ที่สามารถระบุสาเหตุได้ เช่น การถูกกระตุ้นด้วยสารเสพติด โรคทางสมอง หรือโรคทางอายุรกรรม หรือแบบที่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้
อาการโรคไบโพลาร์เข้าสู่ “ภาวะฉุกเฉิน” เป็นอย่างไร?
อาการที่แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยกำลังเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินจากการป่วยโรคไบโพลาร์ คือ อาการที่มีความคิดอยากตาย ประกอบกับมีอาการทางจิต คล้ายโรคจิตเภทที่รุนแรง เกิดอาการกระสับกระส่ายมาก จนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แนะนำให้รีบไปพบจิตแพทย์ เพื่อเข้ารับการประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม
“โรคไบโพลาร์” ต่างกับ “โรคซึมเศร้า” หรือไม่ ?
โรคไบโพลาร์กับโรคซึมเศร้า ถือเป็นกลุ่มโรคทางอารมณ์เหมือนกัน (Mood Disorder) แต่มีความแตกต่างกันด้านขั้วอารมณ์ โดยโรคซึมเศร้าจะเป็นอาการในขั้วเดียวคือ “ขั้วเศร้า” ในขณะที่ไบโพลาร์จะมีอาการทั้งขั้วเศร้าและขั้วอารมณ์ดีสุดโต่ง โดยการรักษาทั้งสองโรคจะใช้ยาคนละประเภทกัน อย่างไรก็ตาม หากไม่แน่ใจในอาการของตนเอง หรือมีอาการด้านความวิตกกังวล มีความเครียดสะสม หรือสัญญาณของโรคจิตเวชอื่น ๆ ควรรีบปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
เมื่อไหร่ควรพบแพทย์
ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการเข้าข่ายโรคไบโพลาร์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม เมื่อสังเกตได้ว่ามีอาการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ที่สุขหรือซึมเศร้าคงอยู่นาน ต่างจากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ธรรมดาโดยทั่วไป แนะนำให้พบแพทย์เพื่อรับการประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม
การวินิจฉัย
โรคไบโพลาร์สามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติโดยละเอียดร่วมกับการตรวจร่างกาย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อแยกโรคจากภาวะอื่นที่ทำให้มีอาการคล้ายภาวะอารมณ์สองขั้ว
การรักษา
โรคไบโพลาร์สามารถรักษาได้โดยใช้ยากลุ่มควบคุมอารมณ์ ยาต้านเศร้า และยารักษาอาการทางจิต ตามอาการร่วมกับการทำจิตบำบัด พฤติกรรมบำบัด และการปรับการใช้ชีวิตประจำวัน กรณีมีอาการรุนแรงทางจิตหรือมีความคิดอยากตาย ควรได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
เข้ารับการบำบัดและรักษาโรคไบโพลาร์ ที่โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์
บำบัดและรักษาอาการไบโพลาร์ได้อย่างอุ่นใจที่ โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ โรงพยาบาลจิตเวชเฉพาะทางในเครือของโรงพยาบาลเวชธานี พร้อมดูแลปัญหาสุขภาพจิต บำบัด และรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยคลินิกเฉพาะทางที่ช่วยดูแลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ภายใต้การรักษาของทีมสหสาขาวิชาชีพที่มากประสบการณ์ ครบครันด้านเครื่องมือและกิจกรรมบำบัดที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้มากที่สุด นัดหมายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-589-1889 เวลา 8.00-20.00 น.
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH