
การตัดสินใจอยากเลิกยาเสพติด คือสัญญาณที่บอกว่า คุณพร้อมจะก้าวสู่ชีวิตใหม่ แม้การเลิกยาไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเกี่ยวข้องทั้งสมอง ร่างกาย และสภาพแวดล้อม แต่หากมีแนวทางที่ถูกต้องและการสนับสนุนที่เหมาะสม โอกาสในการก้าวผ่านการเสพติดก็มีมากขึ้น บทความนี้จะทำให้คุณได้รู้จักการทำความเข้าใจถึงขั้นตอนและวิธีการเริ่มต้นเลิกยา เพื่อให้เข้าใจว่า ควรจะเริ่มจากตรงไหนและมีขั้นตอนอะไรบ้างในการเอาชนะยาเสพติด
จะรู้ได้อย่างไรว่าเราเข้าสู่ภาวะ “ติดยาเสพติด” แล้ว
การใช้ยาเป็นครั้งคราวแตกต่างจากการเสพติดอย่างชัดเจน การเสพติด คือสภาวะที่ร่างกายและจิตใจถูกควบคุมโดยสารนั้น ๆ จนไม่สามารถหยุดใช้ได้ แม้จะรู้ว่ามันส่งผลเสียต่อชีวิตก็ตาม สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเข้าสู่ภาวะติดยาเสพติด ได้แก่
- อาการดื้อยา รู้สึกว่าต้องใช้ยาในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีจำนวนครั้งในการเสพถี่ขึ้น
- อาการถอนยา เมื่อพยายามหยุดหรือลดปริมาณยา จะเกิดอาการผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ตัวสั่น คลื่นไส้ หงุดหงิด กระสับกระส่าย
- ผลกระทบต่อชีวิต เริ่มมีปัญหาด้านความสัมพันธ์ การงาน การเรียน หรือสุขภาพ แต่ก็ยังคงหยุดใช้ยาไม่ได้
อยากเลิกยาเสพติด ต้องเริ่มจากอะไร

เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ว่า อยากเลิกยาเสพติด การเริ่มต้นที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จได้อย่างมาก
ปรับความคิดและตั้งเป้าหมายชัดเจน
ขั้นตอนแรก คือการยอมรับความจริงกับตนเองอย่างตรงไปตรงมาว่า การเสพติดได้สร้างผลกระทบต่อชีวิต สุขภาพ และความสัมพันธ์มากเพียงใด เมื่อยอมรับได้แล้ว ควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนว่าทำไมจึงอยากเลิก เช่น ต้องการกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรง ต้องการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น หรืออยากมีอนาคตที่มั่นคง การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบากระหว่างทาง
เปิดใจยอมรับความช่วยเหลือ
ไม่มีใครจำเป็นต้องต่อสู้กับการเลิกยาเพียงลำพัง การมีคนที่เข้าใจและพร้อมอยู่เคียงข้างจะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จได้มากขึ้น เริ่มจากการพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ เช่น คนในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษาและการสนับสนุนที่เหมาะสม การเปิดใจรับความช่วยเหลือไม่ได้แสดงถึงความอ่อนแอ แต่เป็นความกล้าหาญที่พร้อมเปลี่ยนแปลงตนเอง
หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเสพยา
ในช่วงเริ่มต้นของการเลิกยา ร่างกายและจิตใจยังเปราะบาง จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยหรือสถานการณ์ที่อาจกระตุ้นให้กลับไปใช้ยาอีกครั้ง เช่น การไปพบปะกับเพื่อนที่ยังใช้ยา การไปในสถานที่ที่เคยใช้ยา หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเครียด หากหลีกเลี่ยงได้จะช่วยลดโอกาสการกลับไปเสพซ้ำ และทำให้การเลิกยามีเสถียรมากขึ้น ควรหากิจกรรมอื่น ๆ มาทดแทน เช่น ออกกำลังกาย ฝึกสมาธิ หรือหางานอดิเรกที่สร้างความเพลิดเพลิน เพื่อช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความอยากยา
กระบวนการบำบัดยาเสพติดมีกี่ขั้นตอน
การบำบัดยาเสพติดอย่างเป็นระบบภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และนักบำบัด เป็นแนวทางที่มีโอกาสสำเร็จสูงสุด โดยทั่วไปมี 4 ขั้นตอนหลักดังนี้
ขั้นที่ 1 การเตรียมความพร้อมก่อนการบำบัด (Pre–admission)
ก่อนเริ่มการรักษา ทีมแพทย์และนักบำบัดจะทำการประเมินอย่างละเอียด ทั้งด้านประวัติการใช้ยา สภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ รวมถึงพูดคุยกับครอบครัวเพื่อทำความเข้าใจปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
ขั้นที่ 2 การถอนพิษยาภายใต้การดูแลของแพทย์ (Detoxification)
เป็นช่วงที่ผู้ป่วยต้องเผชิญกับอาการถอนยา หรือที่หลายคนเรียกว่า “อาการลงแดง” ซึ่งอาจรุนแรงและเป็นอันตรายได้ การถอนพิษยาจึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยบรรเทาอาการไม่สบายทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงอาจใช้ยาร่วมในการรักษา เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวและขับสารเสพติดออกไปได้อย่างปลอดภัย
ขั้นที่ 3 การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ (Rehabilitation)
เมื่อผ่านช่วงถอนพิษยาแล้ว การฟื้นฟูสภาพจิตใจเป็นหัวใจสำคัญของขั้นตอนนี้ ผู้ป่วยจะได้เข้าร่วมกิจกรรมบำบัด ทั้งในรูปแบบรายบุคคลและกลุ่ม เพื่อเรียนรู้วิธีรับมือกับความเครียด ฝึกควบคุมอารมณ์ รู้จักแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต และสร้างเป้าหมายใหม่ในชีวิต เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง การได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่เผชิญเส้นทางเดียวกันยังช่วยสร้างกำลังใจและความเข้มแข็งทางใจอีกด้วย
ขั้นที่ 4 การติดตามดูแลและป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำ (After-Care)
แม้การบำบัดจะเสร็จสิ้น ผู้ป่วยยังคงต้องได้รับการดูแลและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คำปรึกษาและช่วยเหลือผู้ป่วยในการรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในชีวิตจริง ป้องกันการกลับไปใช้ยาซ้ำ และทำให้สามารถปรับตัวใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ครอบครัวจะช่วยสนับสนุนผู้ที่กำลังเลิกยาได้อย่างไร

การเลิกยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย และผู้ที่อยู่รอบตัวอย่างครอบครัวถือเป็นกำลังใจสำคัญที่สุด สิ่งที่ครอบครัวสามารถทำเพื่อช่วยผู้ป่วยที่กำลังเผชิญอาการอยากยาได้ มีดังนี้
- ทำความเข้าใจผู้ป่วย
- พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ป่วยพบเจอเพื่อน หรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา
- คอยสังเกตอาการของอาการอยากยา เช่น กระสับกระส่าย หงุดหงิด หรือแสดงพฤติกรรมผิดปกติ
- เมื่อผู้ป่วยมีอาการ ควรรับฟังและเข้าใจ แทนที่จะดุด่าหรือซ้ำเติม
- ชวนทำกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เช่น ดูหนัง ทำอาหาร ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว
- อยู่เคียงข้างและให้กำลังใจในช่วงที่ผู้ป่วยกำลังต่อสู้กับอาการอยากยา จะช่วยให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยว
- ชื่นชมเมื่อผู้ป่วยควบคุมตัวเองได้
- พาไปพบแพทย์หรือนักบำบัด เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลดความทรมาน และช่วยให้การเลิกยาเป็นไปอย่างปลอดภัย
การเลิกยาเสพติดต้องอาศัยความช่วยเหลือจากแพทย์ และการสนับสนุนจากคนรอบข้าง
การเลิกยาเสพติดเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา ความสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ความมุ่งมั่นของตัวผู้ป่วยเอง การได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ไปจนถึงการสนับสนุนจากครอบครัวและสังคม ผู้ที่อยากเลิกยาเสพติดไม่ควรพยายามทำคนเดียว เพราะอาจเกิดอันตรายได้ การเข้าสู่กระบวนการบำบัดที่ถูกต้องภายใต้การดูแลของทีมแพทย์และนักบำบัด จะช่วยให้สามารถเอาชนะการเสพติดและกลับมาสร้างอนาคตที่สดใสได้อีกครั้ง
สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือในการเลิกสารเสพติด หรือมีคนใกล้ชิดที่ต้องการการบำบัด Bangkok Mental Health Hospital (BMHH) โรงพยาบาลที่ดูแลปัญหาทางจิตใจในเครือโรงพยาบาลเวชธานี มีทีมแพทย์และนักจิตวิทยาที่พร้อมประเมินและวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ตั้งแต่ขั้นตอนการถอนพิษยาอย่างปลอดภัยไปจนถึงการบำบัดฟื้นฟูจิตใจ เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
นัดหมายเข้าพบจิตแพทย์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
โทรศัพท์: 02-589-1889
LINE Official Account: @bmhh
Location: https://maps.app.goo.gl/MCKXwQMK1mCshWKdA
บทความโดย
พญ.อภิสรา สุวรรณประทีป
จิตเวชผู้ใหญ่
โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH)
บทความที่เกี่ยวข้อง

ลงแดง ภาวะถอนพิษยาที่ต้องเข้าใจก่อนคิดจะ “หักดิบ”
การตัดสินใจเลิกสารเสพติดหรือสุรา คือจุดเริ่มต้นที่กล้าห […]

เซฟโซน (Safe Zone) คืออะไร และเมื่อไรที่เราควรก้าวออกมา
เรามักได้ยินคำว่า “เซฟโซน” อยู่บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน […]

เด็กซนอยู่ไม่นิ่ง หรือเข้าข่ายสมาธิสั้น สัญญาณที่พ่อแม่ต้องรู้
การเห็นลูกน้อยเต็มไปด้วยพลังงาน วิ่งเล่นไม่อยู่นิ่งเป็น […]
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH