การพนันเปรียบเสมือบกับดักชีวิตที่ทำให้บางคนหลงผิด หรือบางคนอาจหมดตัว และอาจส่งผลกระทบด้านอื่น ๆ ในหลายมิติ เช่น กระทบความสัมพันธ์ครอบครัว คนรัก และเพื่อน ซึ่งถ้าหากมีสัญญาณเหล่านี้ เช่น ไม่สามารถควบคุมการเล่นพนันได้ , กระวนกระวายใจเมื่อพยายามหยุดหรือลดการเล่น , อยากเอาชนะ อยากเอาคืนเมื่อเสียพนัน และยืมเงินผู้อื่นมาจ่ายค่าพนัน แนะนำมาให้ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อพูดคุยหรือเข้ารับการรักษา
สำหรับการรักษา โรค ติดพนัน แบ่งเป็น 3 แนวทางคือ
- การรักษาด้วยยา (Medication) – ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษาโรคติดการพนันด้วยยา แต่อย่างไรก็ตามการได้ยากลุ่มยาลดความกังวล ยาต้านเศร้า สามารถช่วยรักษาปัจจัยในการเล่นการพนันให้ลดลงได้ ซึ่งทำให้การหยุดเล่นการพนัน หรือการหายจากโรคนั้นเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- การทำจิตบำบัด (Psychotherapy) – ใช้หลักการปรับความคิดและพฤติกรรมที่เกิดขึ้น (Cognitive Behavioral Therapy; CBT) เพื่อแก้ปัญหาการเล่นการพนัน ใช้หลักการพูดคุยเพื่อสร้างแรงจูงใจ (Motivational Interview) เพื่อช่วยจัดการความลังเลใจในการหยุดเล่นการพนัน
- การทำจิตบำบัดแบบกลุ่ม – เป็นการนำคนที่มีปัญหาเรื่องการพนันแล้วต้องการหยุดการพนันมาพูดคุยกัน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ วิธีการต่าง ๆ ในการหยุดการพนัน และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ทำให้การหยุดการพนันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการรักษาโรคติดการพนัน ต้องใช้ความร่วมมือของตัวผู้ป่วยและญาติ เพื่อผลการรักษาที่ดี โดยญาติสามารถพูดให้กำลังใจเมื่อสามารถลดหรือเลิกการพนันได้ ที่สำคัญคือห้ามต่อว่า, และแนะนำให้ชวนกันไปทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ออกกำลังกาย กินอาหาร หรือช็อปปิ้ง รวมไปถึงช่วยปรับโครงสร้างหนี้
แพทย์หญิงอริยาภรณ์ ตั้งชีวินศิริกูล
บทความที่เกี่ยวข้อง
ครอบครัวบำบัด กุญแจสำคัญสู่ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกครอบครัวล้วนมีปัญหาภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่ดูสมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ตาม ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากความแตกต่างของบุคลิกภาพ
7 วิธีรับมือความเครียด หลังเจอเหตุการณ์รุนแรงกระทบจิตใจ
เมื่อคนที่เจอเหตุการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องที่คาดไม่ถึงและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต จะทำให้เกิดความกลัว กังวล
6 สิ่งที่ควรแสดงออกกับผู้ป่วยซึมเศร้า
การพูดคุยกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน บางคำพูดที่เรามีเจตนาดีจะสื่อออกไป กลับไปทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามีความกดดัน
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH