รู้จักอาการหายใจเร็วเกินไป Hyperventilation คืออะไร

Share
รู้จักอาการหายใจเร็วเกินไป Hyperventilation คืออะไร

เคยไหมที่ในสถานการณ์ตึงเครียด จู่ ๆ ก็รู้สึกหายใจหอบเร็วขึ้น ใจสั่นรัว เวียนศีรษะ จนมือเท้าเริ่มชาและจีบเกร็ง อาการที่น่าตกใจเหล่านี้ทำให้หลายคนคิดว่าตัวเองกำลังเป็นโรคหัวใจหรือกำลังจะเสียชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่อาจเป็นอาการของ “ภาวะหายใจเร็วเกินไป” หรือ Hyperventilation Syndrome ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด หรือความวิตกกังวลที่รุนแรง แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนสำคัญจากร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

อาการหายใจเร็วเกินไป (Hyperventilation Syndrome) คืออะไร

ภาวะหายใจเร็วเกินไป หรือ Hyperventilation คือกลุ่มอาการที่เกิดจากการที่ร่างกายหายใจเร็วและลึกเกินความต้องการปกติ ทำให้มีการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ออกไปทางลมหายใจมากเกินไปอย่างรวดเร็ว และรับออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย และกระตุ้นให้ระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ จนเกิดเป็นอาการต่าง ๆ เช่น อาการชา และกล้ามเนื้อเกร็งหรือมือจีบตามมา

ลักษณะอาการของ Hyperventilation

ลักษณะอาการของ Hyperventilation

สาเหตุที่ทำให้เกิด Hyperventilation คืออะไร

สาเหตุของภาวะ Hyperventilation คือ สาเหตุทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด และสาเหตุทางด้านร่างกาย

สาเหตุทางจิตใจ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาวะนี้มักเป็นผลมาจากสภาวะอารมณ์ที่รุนแรง ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการหายใจที่ผิดปกติไป ปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่

สาเหตุทางร่างกาย

อย่างไรก็ตาม อาการหายใจเร็วอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะทางกายบางอย่างได้เช่นกัน ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องตรวจเพื่อแยกโรคเหล่านี้ออกไป สาเหตุทางกายที่อาจเป็นไปได้มีดังนี้

วิธีรับมือเมื่อมีอาการ Hyperventilation

เมื่อเกิดอาการขึ้น การตั้งสติและรับมืออย่างถูกวิธีจะช่วยให้อาการสงบลงได้เร็วขึ้น

  1. ตั้งสติและพยายามควบคุมการหายใจ พยายามหายใจให้ช้าลงและหายใจตื้นลงถึงหายใจไม่เต็มปอดจะเป็น Hyperventilation มากกว่าเดิม
  2. พาตัวเอง หรือผู้ป่วยออกจากสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดความเครียด ไปยังที่ที่เงียบสงบ และอากาศถ่ายเท
  3. ฝึกหายใจแบบ 4-7-8 โดยหายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ นับ 1–4 ในใจ จากนั้นกลั้นหายใจ นับ 1–7 ในใจ แล้วหายใจออกผ่านทางปากช้า ๆ พร้อมนับ 1–8 ในใจ
  4. ใช้ถุงกระดาษครอบปากและจมูก แล้วหายใจเข้าออกในถุงนั้นช้า ๆ เพื่อนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับเข้าร่างกาย แต่วิธีนี้ไม่ควรทำหากเป็นโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือมีประวัติภาวะหลอดเลือดขาและปอดอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด
  5. การผ่อนคลายจิตใจ เช่น การมองสิ่งรอบตัว การฟังเสียงธรรมชาติ หรือการนับตัวเลขถอยหลัง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการที่เกิดขึ้น

วิธีรักษาอาการ Hyperventilation

วิธีรักษาอาการ Hyperventilation

ผู้ป่วย Hyperventilation ที่มีสาเหตุมาจากความเครียด หรือความวิตกกังวล ึควรพบนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุทางกายภาพ หรือโรคที่เกี่ยวข้อง และรับการบำบัดจิตใจ เช่น การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy : CBT) เป็นการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้ที่จะระบุความคิดและสถานการณ์ที่กระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวล และฝึกฝนวิธีตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นเหล่านั้นในรูปแบบใหม่ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

หากอาการ Hyperventilation คือส่วนหนึ่งของโรควิตกกังวล หรือโรคแพนิค จิตแพทย์อาจพิจารณาให้ยากลุ่มช่วยคลายเครียดและนอนหลับ (Benzodiazepines) ยาในกลุ่มยาคลายกังวล หรือยาต้านเศร้า (Anti-depressants) เพื่อช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง

Hyperventilation สามารถนำไปสู่โรคอื่นได้ไหม

ในผู้ป่วยที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี อาการ Hyperventilation ไม่ได้นำไปสู่โรคอื่น ๆ ที่อันตรายร้ายแรง อย่างไรก็ตาม หากเกิดซ้ำบ่อยและไม่ได้รับการจัดการที่ต้นเหตุ อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เช่น ความวิตกกังวล หรือภาวะตื่นตระหนก ซึ่งอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้

Hyperventilation เป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่

ภาวะ Hyperventilation ที่มีสาเหตุมาจากความเครียดหรือความวิตกกังวลนั้น ตัวอาการเองไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่มักจะกระทบต่อคุณภาพชีวิต หากปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

แต่ในทางกลับกัน หากอาการ Hyperventilation เป็นผลมาจากโรคทางกายที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคหัวใจ โรคหอบหืดรุนแรง หรือภาวะเลือดเป็นกรด ความอันตรายจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคต้นเหตุนั้น ๆ ซึ่งอาจเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการไม่ด่วนสรุปเอาเอง และควรเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ เพื่อแยกสาเหตุที่แท้จริงออกจากกัน หากเป็นเรื่องของจิตใจก็จะได้รับการดูแลที่ถูกวิธี แต่หากมีสาเหตุทางกายซ่อนอยู่ ก็จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

รับมือ Hyperventilation เริ่มต้นที่การปรึกษาแพทย์

ภาวะ Hyperventilation อาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอาการจะเกิดขึ้นเมื่อใด อีกทั้งต้นตอสำคัญของภาวะนี้ก็มักมาจากความเครียด ความวิตกกังวล หรือปัญหาทางจิตใจอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการดูแล ดังนั้น หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้ ควรขอคำปรึกษาจากจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาเพื่อหาวิธีจัดการที่เหมาะสมและปลอดภัย

Bangkok Mental Health Hospital (BMHH) โรงพยาบาลจิตเวชในเครือโรงพยาบาลเวชธานี เรามีทีมจิตแพทย์และนักจิตวิทยาคลินิกที่พร้อมให้คำปรึกษา วินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และวางแผนการรักษาที่ครอบคลุม เพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการกับความเครียดและความกังวลที่ต้นตอได้อย่างเหมาะสม และกลับมามีความมั่นใจในการใช้ชีวิตอีกครั้ง

นัดหมายเข้าพบจิตแพทย์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

โทรศัพท์: 02-589-1889

LINE Official Account: @bmhh

Location: https://maps.app.goo.gl/MCKXwQMK1mCshWKdA

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความเพิ่มเติม