ทุกคนย่อมใฝ่ฝันถึงความสุข และพยายามสรรหาสิ่งที่จะมาสร้างความสุขให้แก่ตนเอง แต่ถ้าพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวกำลังอยู่ในภาวะไร้ความรู้สึก ไม่สุข ไม่ทุกข์ และรู้สึกเฉยชา ไม่อยากทำอะไร ราวกับชีวิตไร้ซึ่งสีสันโดยไม่รู้ตัวอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนของ “ภาวะสิ้นยินดี” ซึ่งเป็นภาวะทางจิตเวชที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า
แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH- Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า โรคไม่ยินดียินร้าย หรือ “ภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia)” คืออาการผิดปกติทางจิตเวชที่ผู้ป่วยจะเฉยชาต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลง ส่งผลให้ไม่มีความสุข ไม่มีความสนุก ไม่มีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวัน ทั้งที่เมื่อก่อนสิ่งต่าง ๆ รอบตัวสามารถสร้างความสุขให้กับตัวเองได้ เช่น การไปดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยวกับคนรัก ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์ โรคเครียดหลังจากประสบกับเหตุการณ์สะเทือนใจ หรือในบางครั้งก็เป็นผลจากโรคทางกาย เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดทางสมอง โดยอาการของภาวะสิ้นยินดีจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
สาเหตุของภาวะสิ้นยินดี
ภาวะสิ้นยินดี หรือโรคไร้ความรู้สึก มีสาเหตุมาจากความผิดปกติในสมอง เนื่องจากโดยปกติแล้วสมองจะหลั่งสารแห่งความสุข หรือฮอร์โมนโดปามีนออกมา เมื่อทำในสิ่งที่ชอบ แต่สำหรับคนที่มีภาวะสิ้นยินดี สมองจะไม่มีการหลั่งสารโดปามีน จึงทำให้รู้สึกไม่มีความสุขเวลาทำกิจกรรมที่ตัวเองเคยชอบ
อาการของภาวะสิ้นยินดี
ภาวะสิ้นยินดี จะแสดงอาการออกมาในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งที่พบมาก มีดังต่อไปนี้
- ไม่ชอบเข้าสังคม
- ไม่รู้สึกสุข ไม่รู้สึกเศร้า
- ความสุขจากกิจวัตรประจำวันลดลง
- ความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัวลดน้อยลง
- สนใจงานอดิเรกที่เคยทำก่อนหน้านี้น้อยลง
- เกิดความรู้สึกสิ้นหวัง หมดกำลังใจ
- ไม่ตื่นเต้นที่จะออกไปเที่ยวกับเพื่อนอีกต่อไป
- ความต้องการทางเพศลดลง
- ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากใคร
- ไม่อยากฟังเรื่องราวคนอื่น
ประเภทของภาวะสิ้นยินดี
ภาวะสิ้นยินดีจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ภาวะสิ้นยินดีทางสังคม (Social Anhedonia) ผู้ป่วยจะไม่อยากพบเจอ พูดคุย ไม่ได้ต้องการสร้างสัมพันธ์กับบุคคลใด
- ภาวะสิ้นยินดีทางร่างกาย (Physical Anhedonia) ผู้ป่วยจะไม่มีความรู้สึกเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ไปกินอาหาร ไปดูหนัง ก็ไม่มีความสุขเหมือนที่เคย
แนวทางการรักษาของภาวะสิ้นยินดี
ภาวะสิ้นยินดี ไม่มีวิธีการรักษาเฉพาะเจาะจง แต่จะเป็นการรักษาด้วยการวินิจฉัยว่ามีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ โดยจะมีแนวทางในการรักษา ดังนี้
- จิตแพทย์จะตรวจประวัติทางการแพทย์ สอบถามอาการ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก รวมถึงการตรวจทางร่างกาย เพื่อหาโรคและความผิดปกติอื่น ๆ เพื่อนำมาประเมินและค้นหาสาเหตุที่แท้จริง
- หากไม่มีความผิดปกติทางร่างกาย และเป็นความผิดปกติทางจิต จิตแพทย์อาจรักษาด้วยวิธีการพูดคุย ให้คำปรึกษา หรือคำแนะนำในการหากิจกรรมที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข เช่น ฟังเพลง, ทำกิจกรรมกับคนรัก, กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ, เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม โดยเลือกเข้าสังคมที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
- หากมีภาวะซึมเศร้า แพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยาต้านซึมเศร้า พร้อมกับการให้ดูแลสุขภาพกาย
- หากอาการไม่ตอบสนอง แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งได้ผลดีในผู้ป่วยโรคซึมเศร้า เช่น การกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า dTMS (Deep Transcranial Magnetic Stimulation) การใช้เครื่องกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส VNS (Vagus Nerve Stimulation) ซึ่งเป็นเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงอวัยวะภายในช่องอกและช่องท้อง ตลอดจนมีประสาทรับความรู้สึกจากอวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย รวมไปถึงการรักษาด้วยกระแสไฟฟ้า ECT (Electroconvulsive Therapy)
แนวทางการป้องกันภาวะสิ้นยินดี
เช่นเดียวกับการรักษาภาวะสิ้นยินดี ที่ไม่อาจกล่าวได้ว่ามีวิธีป้องกันที่เฉพาะเจาะจง และต้องอาศัยการสังเกต ซึ่งควรได้รับความร่วมมือจากคนรอบข้าง เช่น ครอบครัว หรือเพื่อน และสำคัญที่สุดคือตัวของผู้ป่วยเองที่ควรหมั่นสังเกตอาการ และดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจให้ดี เช่น
- ผู้ป่วยควรหมั่นสังเกตอาการตัวเอง ว่าอะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นความเครียด พยายามปรับวิถีชีวิตเพื่อลดความเครียดเหล่านั้นเท่าที่จะทำได้
- ผู้ป่วยควรมองหาความสุขจากสิ่งรอบ ๆ ตัว เช่น เขียนบันทึกประจำวัน ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยวันละ 1 เรื่อง ไม่จำเป็นต้องเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ อาจเป็นความสุขเล็ก ๆ เช่น วันนี้ได้กินอาหารอร่อย
- ผู้ป่วยควรออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะในระหว่างการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมทางกาย จะเกิดการหลั่งสารโดปามีนกระตุ้น “ความสุข” ให้แก่สมอง
หากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัว เริ่มมีภาวะสิ้นยินดี ไม่ยินดี ยินร้าย กับความสุขและความทุกข์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อย่าละเลยหรือมองข้าม ควรรีบขอความช่วยเหลือจากนักจิตวิทยา ที่โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ โรงพยาบาลจิตเวชเฉพาะทางในเครือของโรงพยาบาลเวชธานี เรายินดีให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คุณมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น และค้นหาความสุขของตนเองได้ในที่สุด
แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล
จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH- Bangkok Mental Health Hospital
สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่
โทรศัพท์: 02-589-1889LINE Official Account: @bmhh
Location & Google Map: ติวานนท์ 39
Website: bangkokmentalhealthhospital.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็น
ปัญหาสุขภาพจิตกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมปัจจุบัน แต่สิ่งที่ตามมาพร้อมกับปัญหาเหล่านี้คือ "การตีตรา" (Stigma)
เข้าใจอาการและการรักษาโรคซึมเศร้า ก่อนเข้ามาพบแพทย์
เช็กอารมณ์ ความรู้สึก และพฤติกรรม ต้องพบแพทย์รักษาโรคซึมเศร้าหรือไม่ แล้วโรคซึมเศร้าอันตรายหรือไม่ สามารถรักษาหายได้ไหม และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
โรคซึมเศร้า ภัยเงียบคุกคามสังคม
วันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น “วันสุขภาพจิตโลก” (World Mental Health Day) เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH