ออทิสติก หรือภาวะออทิสติกสเปกตรัม (ASD)

Share

ออทิสติก หรือภาวะออทิสติกสเปกตรัม (ASD) เป็นความผิดปกติของระบบประสาทที่มีผลต่อการสื่อสาร การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และพฤติกรรมของบุคคล ASD มีลักษณะอาการที่แตกต่างกันมากในความรุนแรงและการแสดงออกในแต่ละบุคคล ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษา ASD ที่ทราบแน่ชัด แต่การวินิจฉัยแต่เนิ่นและการรักษาสามารถช่วยปรับปรุงผลลัพธ์และคุณภาพชีวิตได้

อาการของโรคออทิสติก

อาการของออทิสติก มักปรากฏในวัยเด็กและอาจประกอบด้วยความล่าช้าหรือไม่มีการพัฒนาทางด้านภาษา มีปัญหาในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม พฤติกรรมซ้ำ ๆ หรือความสนใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และความไวต่อสิ่งเร้า บางรายอาจมีปัญหาด้านทักษะการเคลื่อนไหวประสานสัมพันธ์ขั้นสูง ในขณะที่บางรายอาจมีความสามารถทางสติปัญญาสูง บางคนที่มีภาวะออทิสติกอาจประสบกับภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ

ออทิสติกเป็นความผิดปกติของพัฒนาการที่ก่อให้เกิดความบกพร่องอย่างมากในทักษะสำคัญดังนี้:

ความบกพร่องทางทักษะสังคมที่ส่งผลต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น

ความบกพร่องด้านภาษาและการสื่อสาร ซึ่งอาจส่งผลต่อทั้งการเข้าใจและการใช้ภาษา

พฤติกรรมซ้ำ ๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่พบในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เช่น

สาเหตุของโรคออทิสติก

ในปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะออทิสติกสเปกตรัมได้ แต่จากการศึกษาทางการแพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่า มีปัจจัยที่ส่งเสริมการเกิดโรค โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ดังนี้

ออทิสติกมีกี่ระดับ

เกณฑ์การวินิจฉัยในปัจจุบันจะแบ่งภาวะออทิสติกสเปกตรัมออกเป็น 3 ระดับตามความรุนแรงของอาการและระดับความช่วยเหลือที่ต้องการ เพื่อให้สามารถวางแผนการดูแลได้อย่างเหมาะสม 

ออทิสติกเทียมคืออะไร แตกต่างจากออทิสติกสเปกตรัมอย่างไร

ออทิสติกเทียม หมายถึงภาวะที่เด็กแสดงพฤติกรรมคล้ายกับเด็กออทิสติก เช่น ไม่ตอบสนองต่อคำพูด หรือเล่นคนเดียว แต่มีสาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและการเลี้ยงดู โดยเฉพาะการขาดการกระตุ้นพัฒนาการที่เหมาะสม ขาดการเล่นที่สมวัย เช่น การปล่อยให้เด็กอยู่กับหน้าจอมากเกินไป ทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้คน หรือฝึกเข้าสังคมอย่างเหมาะสมตามวัย

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ ออทิสติกสเปกตรัมมีสาเหตุจากพัฒนาการของสมองที่ผิดปกติมาแต่กำเนิดและเป็นภาวะที่จะอยู่กับบุคคลนั้นไปตลอดชีวิต ในขณะที่ออทิสติกเทียม หากได้รับการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมอย่างทันท่วงที เช่น งดหน้าจอโดยเด็ดขาดและเพิ่มการเล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ อาการคล้ายออทิสติกเหล่านั้นสามารถดีขึ้นและหายไปได้

เมื่อไรที่ควรพบแพทย์

ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลควรพาเด็กไปพบแพทย์ หากสังเกตเห็นพัฒนาการล่าช้าหรือพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น พูดช้ากว่าปกติ หรือมีปัญหาในการเข้าสังคม การได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ระยะเริ่มต้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อเด็กที่มีภาวะออทิสติก หากพบพฤติกรรมที่น่ากังวล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพัฒนาการของบุตรหลาน ควรเข้ารับคำปรึกษากับจิตแพทย์โดยเร็ว

ภาวะฉุกเฉินของโรคออทิสติก

บุคคลที่มีภาวะออทิสติกอาจแสดงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อตนเองหรือก้าวร้าว ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ หากพบพฤติกรรมที่น่ากังวล เช่น มีความคิดฆ่าตัวตาย การทำร้ายตนเอง หรือใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่น ควรรีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์โดยทันที

การวินิจฉัยโรคออทิสติก

การวินิจฉัยภาวะออทิสติก เด็กจะได้รับการประเมินอย่างละเอียดโดยทีมแพทย์สหสาขาวิชาชีพ เช่น กุมารแพทย์ จิตแพทย์เด็ก นักจิตวิทยา และนักจิตบำบัดการประเมินอาจรวมถึงการทบทวนประวัติทางการแพทย์ของเด็ก การสังเกตพฤติกรรม และการประเมินด้านความสามารถทางสติปัญญาและพัฒนาการตามมาตรฐาน การประเมินยังอาจมีการตรวจคัดกรองการได้ยินและการมองเห็น เพื่อกำจัดสาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดความล่าช้าในพัฒนาการ

การรักษาโรคออทิสติก

การรักษาภาวะออทิสติก มีความเฉพาะเจาะจงสูงสำหรับแต่ละบุคคล และอาจประกอบด้วยหลายวิธีเข้าด้วยกัน ดังนี้

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างครอบครัวและทีมแพทย์ เพื่อพัฒนาและปรับเปลี่ยนแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงของพัฒนาการ

ออทิสติก รักษาหายไหม

จากประสบการณ์ดูแลเด็กออทิสติก ถึงแม้จะเป็นภาวะที่ไม่สามารถพูดว่าหายขาดได้ แต่การกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่เล็กๆ จะทำใ้เด็กกลับมามีศักยภาพในการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตที่อาจบอกว่าได้บ้างคนก็เทียบเท่ากับเด็กที่ไม่มีปัญหาทางพัฒนาการ ทั้งนี้การที่เด็กจะกลับมามีศักยภาพดีหลังผ่านการฝึกนั้นจะขึ้นกับ 3 ปัจจัยที่สำคัญคือ IQ ของเด็ก, การสื่อสารเป็นคำพูดได้ตั้งแต่อายุยังเล็ก และทัศนคติของพ่อแม่หรือผู้ดูแลต่อการตัดสินใจพาเด็กเข้าสู่กระบวนบำบัดรักษา

ในปัจจุบัน ไม่สามารถรักษาออทิสติกให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของการดูแลรักษาเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยให้เด็กสามารถสื่อสาร เข้าสังคม และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุขและเต็มศักยภาพมากที่สุด การได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างถูกต้องและรวดเร็วตั้งแต่เนิ่น ๆ คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เด็กออทิสติกเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างดีที่สุดหากผู้ปกครองสงสัยว่าบุตรหลานอาจมีอาการดังกล่าว และกำลังมองหาโรงพยาบาลจิตเวช สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH) เรามีทีมสหสาขาวิชาชีพที่พร้อมทำงานร่วมกับครอบครัว เพื่อดูแลและส่งเสริมพัฒนาการของบุตรหลานในระยะยาว นัดหมายและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม LINE Official Account: @bmhh หรือโทร 02-589-1889 เวลา 8.00-20.00 น

บทความโดย
พญ.ปัทมาพร ทองสุขดี
จิตเวชเด็กและวัยรุ่น
โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH) / Bangkok Mental Health Hospital (BMHH)