โรคแกล้งป่วย (Factitious disorder) เป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยจะแสร้งทำว่าตัวเองหรือผู้อื่นมีความเจ็บป่วยทางร่างกายหรือทางจิตใจ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้มีอาการป่วย โดยจะแสร้งทำเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งจากการอาการป่วยนี้ ไม่ว่าจะเป็น ทรัพย์สินเงินทอง ความรัก และความเห็นอกเห็นใจจากผู้อื่น ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้จากงานวิจัยพบร้อยละ0.8-1 ของผู้ป่วยทางกายที่ได้รับการปรึกษาจิตแพทย์ ในช่วงอายุ 20-40 ปี มีประวัติการทำงานด้านสาธารณสุข มีประวัติว่างงาน ไม่มีญาติใกล้ชิด และพบโรคร่วมทางจิตเวช เช่น โรคความผิดปกติทางอารมณ์ โรคบุคลิกภาพแปรปรวน หรือติดสารเสพติด
สาเหตุของโรคเกิดจาก ผู้ป่วยอาจมีประวัติถูกทารุณกรรมหรือถูกละเลยในวัยเด็ก การเจ็บป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทำให้รู้สึกว่าช่วยให้หนีจากสถานการณ์เลวร้ายในบ้านได้ รวมทั้งได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีจากบุคลากรการแพทย์ บางคนเลียนแบบการป่วยจากบุคคลสำคัญในอดีต บางคนเป็นบุคลากรการแพทย์แล้วเลียนแบบอาการของผู้ป่วยที่ตัวเองรักษาอยู่
โรคแกล้งป่วยแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ แบบที่ทำตัวเอง และ แบบที่ทำผู้อื่น
แบบที่ทำตัวเอง
- แสร้งทำอาการทางกายหรือทางจิต หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุ ทำให้เกิดโรค
- แสดงบทบาทเป็นคนป่วย
- พฤติกรรมหลอกลวงปรากฏชัด แม้ว่าไม่มีสิ่งตอบแทนจากภายนอกชัดเจน
- พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวชอื่น ๆ
แบบที่ทำผู้อื่น
- ตั้งใจหรือทำให้เข้าใจผิดว่าผู้อื่นมีอาการทางกายหรือทางจิต
- บอกว่าคนอื่นป่วย ไม่สบาย หรือบาดเจ็บ
- พฤติกรรมหลอกลวงปรากฏชัด แม้ว่าไม่มีสิ่งตอบแทนจากภายนอกชัดเจน
- พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวชอื่น ๆ
ลักษณะอาการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม
- แกล้งเจ็บป่วยทางร่างกาย คือ ผู้ป่วยแสร้งแสดงอาการและแจ้งประวัติเท็จ เมื่อพบแพทย์จะแสดงอาการว่าป่วยและจำเป็นต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล หรือทำตัวเองให้มีอาการ เช่น อมน้ำร้อนแล้วมาวัดไข้เพื่อให้มีไข้ บางคนอาจเคยป่วยเป็นโรคนั้นจริงแล้วใช้โรคเดิมมาเป็นอาการนำ แสร้งทำเป็นมีอาการอื่น ๆ ตามมา
เมื่อรับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยมักเรียกร้องความสนใจ ขอยาบ่อย ๆ ขอให้มีการตรวจรักษาอย่างจริงจัง เช่น การผ่าตัด หากแพทย์ตรวจไม่พบอะไรจะไม่พอใจ เมื่อแพทย์มีท่าทีสงสัยว่าแสร้งทำ ผู้ป่วยจะไม่สมัครใจรักษาต่อและย้ายไปรักษาที่อื่นต่อไป - แกล้งเจ็บป่วยเป็นโรคทางจิตเวช คือ ผู้ป่วยแสร้งแสดงอาการและแจ้งประวัติเท็จในด้านโรคทางจิตเวช เช่น หูแว่ว ซึมเศร้า สับสน หรือมีพฤติกรรมแปลก ๆ รักษาเต็มที่แล้วยังมีอาการอยู่ เช่น มาด้วยซึมเศร้าแล้วเล่าว่าญาติสนิทเสียชีวิต โดยให้รายละเอียดมีสีสันเหมือนในนิยาย ซึ่งฟังแล้วไม่น่าเป็นไปได้หรือขัดแย้งกันเอง เพื่อให้ได้รับความเห็นใจจากแพทย์
- ผู้ป่วยแสร้งแสดงอาการและแจ้งประวัติเท็จทั้งโรคทางกายและโรคทางจิต
- แกล้งทำความเจ็บป่วยให้แก่คนอื่น ซึ่งมักเป็นเด็กเล็ก อาจจะเป็นลูกหรือคนที่ผู้ป่วยดูแลอยู่ เพื่อให้ตัวเองได้รับการดูแลทางจิตใจด้วย เช่น แม่ปลอมปนเลือดในปัสสาวะให้ลูกเพื่อให้ลูกเข้าสู่การรักษา
สำหรับการรักษา ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับว่าตัวเองแกล้งป่วย จึงยากที่จะรักษาให้หายขาด เป้าหมายในการรักษาจึงเป็นการเลี่ยงที่จะให้ผู้ป่วยทำตัวเองให้เจ็บป่วยเพิ่มขึ้น ให้การรักษาทางจิตใจ การได้ประวัติและความร่วมมือจากญาติจะช่วยการวินิจฉัยและการรักษาได้
พญ.ณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล
จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital
บทความที่เกี่ยวข้อง
Social Detox เพื่อชีวิตที่สมดุล
คนทั่วโลกใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ยประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า
เช็กสัญญาณซึมเศร้าหลังคลอดที่คุณแม่ควรรู้
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอด ประมาณ 1 ใน 7 ของคุณแม่จะประสบกับภาวะนี้ มักเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด
เมื่อใจต้องเผชิญกับความสูญเสีย ดูแลใจอย่างไรให้กลับมาแข็งแรง
การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นเรื่องที่ทุกคนอาจต้องเผชิญในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ความรู้สึกเศร้าและอ้างว้างที่เกิดขึ้นสามารถสร้างความท้าทาย
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH