พาคนใกล้ตัวไปตรวจโรคซึมเศร้า ทำได้ง่ายกว่าที่คิด

Share
สามีปลอบภรรยาที่กำลังมีภาวะเครียดและซึมเศร้า

ต้องยอมรับว่าด้วยสภาพเศรษฐกิจ สภาพสังคม และความกดดันจากรอบข้าง ทำให้ทุกวันนี้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้ที่มีอาการแต่ไม่ได้รับการตรวจโรคซึมเศร้าและเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีด้วย ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่ามีผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตมากถึง 10 ล้านคน แต่มีคนเข้ารับการตรวจรักษาเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น และในปี พ.ศ. 2566 มีเยาวชนที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงถึงร้อยละ 26

จากข้อมูลนี้ สะท้อนให้เห็นว่าโรคซึมเศร้า กำลังแทรกซึมเข้าสู่สังคมไทยอย่างช้า ๆ และคนส่วนใหญ่ก็มักมีอาการซึมเศร้าโดยไม่รู้ตัว หากปล่อยทิ้งไว้ คนกลุ่มนี้ก็จะยิ่งมีอาการรุนแรงขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาวได้ หากมีคนใกล้ชิดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคซึมเศร้า และต้องการพาพวกเขาไปตรวจเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีที่โรงพยาบาลจิตเวชใกล้ฉัน นี่คือ 6 คำแนะนำที่คุณควรรู้ก่อนพาคนใกล้ตัวไปตรวจโรคซึมเศร้า

สามีปลอบภรรยาที่กำลังมีภาวะเครียดและซึมเศร้า

สัญญาณของผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า

เมื่อโรคซึมเศร้ากลายเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองหรือคนใกล้ชิดมีความเสี่ยงและควรได้รับการตรวจโรคซึมเศร้าอย่างละเอียด ? คำตอบก็คือคุณสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้จากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยสามารถจำแนกสัญญาณเตือนของผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าออกเป็น 4 ประการด้วยกัน ดังนี้

1. มีความคิดไปในด้านลบตลอดเวลา

สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้จากผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าคือ พวกเขาจะมีความคิดในทางลบตลอดเวลา ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีประโยชน์ ทำอะไรก็ไม่ดี ไม่สำเร็จ สิ้นหวังในการมีชีวิตอยู่ และเอาแต่โทษตัวเองอยู่เสมอ จนทำให้อาการแย่ลงได้

2. อ่อนเพลีย ไม่มีพลัง ทำงานช้าลง

อีกหนึ่งอาการที่เป็นสัญญาณเตือนว่าควรไปตรวจโรคซึมเศร้าคือ การไม่มีความสนใจในความสนุกหรืองานอดิเรกใด ๆ แม้จะเป็นกิจกรรมที่เคยชอบ รวมทั้งยังไม่มีเรี่ยวแรงทำงาน กระสับกระส่าย สมาธิสั้น ทำอะไรช้าลง และการนอนมีปัญหาด้วย

3. หงุดหงิดและโมโหง่าย

โรคซึมเศร้าเป็นอาการทางด้านจิตใจ จึงส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกหงุดหงิด โกรธ โมโหง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมถึงเรื่องที่เคยปล่อยผ่านได้ ก็นำมาคิดและหงุดหงิดได้เช่นกัน ตลอดจนมีอาการอยู่ไม่สุข และกระวนกระวายตลอดเวลาด้วย

4. พฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเกิดภาวะซึมเศร้า สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ชัดเจนคือ ความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น เบื่ออาหารจนน้ำหนักลด กินมากผิดปกติแบบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นอนไม่หลับ เก็บตัวอยู่คนเดียว และอาจมีความคิดที่อยากทำร้ายตัวเองได้

แพทย์กำลังให้คำปรึกษาและตรวจโรคซึมเศร้า

6 คำแนะนำ เมื่อต้องพาคนใกล้ชิดไปตรวจโรคซึมเศร้า

หากพบว่าคนใกล้ชิดมีอาการเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า และอยากอยู่เคียงข้างพวกเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยไม่ทำให้พวกเขารู้สึกแย่ไปมากกว่าเดิม นี่คือ 6 ข้อแนะนำที่ควรทำ เมื่อต้องพาคนใกล้ตัวไปตรวจโรคซึมเศร้า

1. สร้างความไว้ใจให้ผู้ป่วย

อันดับแรก หากอยากให้ผู้ป่วยรู้สึกวางใจในการไปพบจิตแพทย์ ต้องทำให้พวกเขาไว้ใจด้วยการบอกไปตามตรงว่าจะพาไปที่ไหน อย่าขู่ว่าน่ากลัว และอย่าหลอกลวงว่าจะพาไปที่อื่น เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเกิดความคิดในแง่ลบ

2. แสดงความเป็นห่วงอย่างจริงใจ

คำแนะนำข้อถัดมาคือ การแสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณพยายามทำความเข้าใจและอยากช่วยเหลือให้มีอาการดีขึ้น อธิบายว่าการไปพบจิตแพทย์จะส่งผลดีต่อผู้ป่วยอย่างไร และคุณพร้อมจะอยู่เคียงข้างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

3. หลีกเลี่ยงการสื่อสารในเชิงลบ

เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจะแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติ แต่ระลึกไว้เสมอว่าพวกเขาคือคนป่วย อย่าสื่อสารในเชิงลบ ไม่ว่าจะเป็นการตำหนิ ด่าทอ หรือการโต้เถียง เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยสภาพจิตใจแย่ลงได้

4. ชี้ให้เห็นข้อดีของการไปพบจิตแพทย์

บางครั้งผู้ป่วยอาจหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง จึงเป็นหน้าที่ของคนใกล้ชิดที่จะช่วยชี้ให้เห็นว่าการไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจโรคซึมเศร้า รวมทั้งรักษาภาวะที่เป็นอยู่อย่างถูกวิธีจะส่งผลดีอย่างไร เพื่อโน้มน้าวให้พวกเขายอมไปพบจิตแพทย์ได้ง่ายขึ้น

5. อยู่เคียงข้างพวกเขาในทุกช่วงเวลา

เพราะการรักษาปัญหาด้านจิตใจต้องใช้เวลาและความพยายาม นอกจากจะเป็นคนพาไปตรวจโรคซึมเศร้าแล้ว คุณควรอยู่เคียงข้างเขาตลอดการรักษา ทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน ทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่คิด

6. เลือกเวลาการชักชวนให้เหมาะสม

สุดท้าย เป็นเรื่องเวลาในการชักชวนไปพบจิตแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือนจิตใจจนเกินไป ควรเลือกพูดถึงตอนที่ผู้ป่วยมีอารมณ์ดีเท่านั้น และไม่เอ่ยชวนต่อหน้าผู้อื่น เนื่องจากจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอายและมีอาการแย่ลง
หากสงสัยว่าคนใกล้ตัวมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป สุ่มเสี่ยงมีอาการของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า แล้วกำลังมองหาโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อพาคนใกล้ชิดไปตรวจโรคซึมเศร้าและวางแผนการรักษาอย่างถูกวิธี เลือกโรงพยาบาล BMHH – Bankok Mental Health Hospital โรงพยาบาลจิตเวชในเครือโรงพยาบาลเวชธานี พร้อมอยู่เคียงข้างผู้ป่วยในทุกสถานการณ์ มุ่งมั่นแก้ปัญหาด้านสุขภาพจิตอย่างดีที่สุด โดยทีมสหสาขาวิชาชีพมากประสบการณ์ ดูแลอย่างใส่ใจ พร้อมเคียงข้างให้ก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งความไม่สุขสบายได้อย่างง่ายดาย


แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์
โรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital


ปรึกษาและนัดหมายจิตแพทย์

02-589-1889
Line :  @bmhh
Location & Google Map : ติวานนท์ 39
Website : bangkokmentalhealthhospital.com

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผู้ชายมีความเครียดจากการทำงานหนักมากเกินไป
มกราคม 16, 2025
เข้าใจความเครียด รับมือได้ ไม่กระทบสุขภาพจิต

ความเครียดเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเผชิญ การเรียนรู้วิธีจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมจึงสำคัญ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตและชีวิตประจำวัน

พฤติกรรมท็อกซิกในความสัมพันธ์ ทำให้คนทะเลาะกัน
มกราคม 16, 2025
รู้จักอาการ Toxic People คืออะไร เข้าใจพฤติกรรมคนเป็นพิษ

รู้ทันอาการ Toxic คืออะไร หนึ่งในพฤติกรรมของคนใกล้ตัวที่กลายเป็นพิษ ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ พร้อมแนะนำลักษณะ อาการ และวิธีรับมือที่เหมาะสม

สัญญาณเตือนที่ควรพบจิตแพทย์
มกราคม 16, 2025
ไม่สบายใจ เครียด อารมณ์แปรปรวน ปรึกษาจิตแพทย์ ช่วยได้

จิตใจของเรายัง “ไหว” อยู่ไหม ? หรือว่าแหลกสลายไปแล้ว… ใครที่มีอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป หรือแปรปรวน เช็กด่วน คุณอาจจะต้องพบจิตแพทย์

บทความเพิ่มเติม