นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ทำให้เทรนด์การทำงานของหลาย ๆ คนเปลี่ยนไป บางคนต้องทำงาน Work from home และปัญหาที่ตามมาคือ ทำงานเกินเวลาโดยปริยาย เพราะฉะนั้น work-life balance จึงขาดความสมดุล และไม่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ในที่สุด
ปัจจุบันมีแนวคิดการทำงานที่เรียกว่า Work-Life Integration คือการทำงานที่หลอมรวมระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานเข้าด้วยกัน เป็นไลฟ์สไตล์ที่ยึดอยู่บนการจัดการเวลาของเราแทน ซึ่งเป้าหมายของการทำงานแบบนี้ เน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน, ลดความเครียด จากเดิมที่เรามีเรื่องของเวลาเป็นตัวกำหนด, ส่งเสริมความสุข, และสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงาน
Work-Life Integration ดีอย่างไร?
- มีความยืดหยุ่นที่มากกว่า เพราะเราไม่ต้องแบ่งชีวิตด้วยเวลาทำงาน ทำให้เราสามารถจัดการกับชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้ และจะกลับมาจัดการงานเมื่อไหร่ก็ได้
- มีความใส่ใจกับผลงานมากกว่าเวลา Work-Life Balance
- ทำให้งานดำเนินคู่ไปกับการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เพราะแทนที่เราจะเเบ่งงานกับชีวิตออกจากกัน แต่ Integration คือการที่ทำให้งานดำเนินสอดคล้องไปกับชีวิต และการที่งานกับชีวิตไม่ถูกแบ่งออกจากกัน จะทำให้เราไม่รู้สึกว่างานมาแย่งเวลาไปจากเรา
การทำงานแบบ Work–life Integration อาจจะไม่เหมาะกับทุกองค์กร แต่ก็สามารถเอาข้อดีไปปรับใช้ได้ เพราะถ้าวัฒนธรรมองค์กรส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ประสิทธิภาพของผลงานก็จะดีขึ้นไปด้วย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อองค์กรอย่างมาก
สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่
02-589-1889Line : @bmhh
Location & Google Map : ติวานนท์ 39
Website : bangkokmentalhealthhospital.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 วิธีสังเกตอาการซึมเศร้าซ่อนเร้น
อาการซึมเศร้าอาจแฝงตัวอยู่ในพฤติกรรมที่ดูปกติ แต่กลับส่งผลกระทบลึกซึ้งโดยไม่ทันรู้ตัว การเรียนรู้ที่จะสังเกตและเข้าใจสัญญาณ
ปลดล็อกศักยภาพ พร้อมเผชิญหน้ากับ Impostor Syndrome
ใครเคยเป็นบ้าง รู้สึกไม่มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง ต่อให้คนอื่น ๆ จะชื่นชมเราแค่ไหน ก็มักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า “เราดีจริงๆ
“สุขภาพจิตของครู”
วันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันครูแห่งชาติ วันที่ทุกคนหันมาระลึกถึงความสำคัญของครูผู้เป็นเสาหลักในการสร้างสรรค์อนาคตของชาติ
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH