5 วิธีกำจัด”ภาวะหมดไฟ”

Share
ภาวะหมดไฟ

ภาวะหมดไฟ Burnout syndromes เป็นภาวะเหนื่อยล้าทางอารมณ์ ร่างกายและจิตใจ เป็นผลจากความเครียดที่สะสมจากการทำงานมากเกินไป ส่งผลให้ไม่อยากไปทำงาน มีอารมณ์ร่วมกับงานน้อยลง มองความสัมพันธ์ที่ทำงานในทางลบ มุมมองต่อคนอื่นแย่ลง จนทำให้เกิดผลกระทบต่อการทำงานที่ไม่ดี หากสังเกตอาการตัวเองเข้าข่ายภาวะหมดไฟ ควรหาวิธีจัดการความรู้สึกเหล่านี้ให้สามารถกลับมาทำงานได้อย่างมีความสุข 

5 วิธีกำจัดภาวะหมดไฟ 

1. เข้าสังคม 

การมีสังคมถือเป็นยารักษาความเครียดโดยธรรมชาติ ซึ่งการคุยกับใครสักคน เช่น แฟน ครอบครัว เพื่อน ที่เป็นผู้ฟังที่ดีฟังอย่างตั้งใจ ไม่ตัดสิน เป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการคลายเครียด ถึงแม้ผู้ฟังจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้แต่ก็ได้ใช้เวลาอยู่กับคนที่ตัวเองรัก, การใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานให้มากขึ้น ซึ่งการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานจะทำให้งานเบาลง และหากิจกรรมทำในที่ทำงาน, เลี่ยงการติดต่อกับคนคิดลบ การอยู่กับคนคิดลบจะดึงให้อารมณ์และมุมมองของตัวเราคิดลบไปด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องพบเจอหรือทำงานร่วมกันก็ให้ใช้เวลาน้อยที่สุด, ร่วมกลุ่มกิจกรรมทางสังคมที่ชอบ เช่น กลุ่มปฏิบัติธรรม กลุ่มท่องเที่ยว พูดคุยกับคนที่ชื่นชอบสิ่งเดียวกัน จะทำให้มีเพื่อนใหม่และอาจได้วิธีแก้ปัญหาจากคนที่ประสบปัญหาเดียวกัน, การให้ความช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้ตัวเรามีความสุข แต่อย่าให้มากจนตัวเองลำบากหรือเสียเวลามากเกินไป 

2. เปลี่ยนมุมมองต่องาน

ถ้าเป็นงานที่รีบตลอดเวลา หรือทำงานแล้วไม่มีความสุข วิธีที่ดีที่สุดคือหางานใหม่ แต่ในความเป็นจริงการหางานไม่ได้ทำได้ง่าย เพราะฉะนั้นลองหาคุณค่าในงาน ให้ความสนใจในเรื่องเล็กน้อย เช่น พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานตอนพักเที่ยงและลองเปลี่ยนทัศนคติต่องาน แต่ถ้ารู้สึกว่างานที่ทำอยู่หนักเกินไป ให้ลางานไปพักผ่อน หรือ ลางานแบบไม่รับเงินเดือนเพื่อใช้เวลาพักและเติมพลังให้กับตัวเอง 

3. จัดลำดับความสำคัญ

ลองหาเวลาคิดเกี่ยวกับความหวัง ความฝัน เป้าหมายในชีวิต โดยครั้งนี้อาจเป็นโอกาสในตามหาความสุข ลองทำอะไรช้าลงให้เวลาตัวเองได้พัก ทบทวน เยียวยาจิตใจ,  ลองฝึกปฏิเสธ, กำหนดเวลาในแต่ละวันที่จะตัดขาดจากเทคโนโลยี ปิดคอม โทรศัพท์, หาเวลาทำกิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ เช่น โยคะ ทำสมาธิ ฝึกหายใจ  และนอนหลับพักผ่อน 

4. ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นยาต้านความเครียด ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น โดยต้องตั้งเป้าว่าจะออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ในช่วงเครียดแทนที่จะโฟกัสความคิด ให้หันมาโฟกัสร่างกาย ดูการเคลื่อนไหวขณะออกกำลังกาย

5. กินอาหารสุขภาพ

ควบคุมปริมาณการกินอาหาร เช่น กินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทในปริมาณที่เหมาะสม ลดคาเฟอีนลดอาหารที่มีไขมัน ลดอาหารแปรรูปและอย่ากินของหวานมากเกินไป รวมไปถึงการเลิกบุหรี่ ถึงแม้บุหรี่เหมือนจะช่วยลดความเครียด แต่ที่จริงบุหรี่มีสารกระตุ้นที่ทำให้กังวลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากลองวิธีเหล่านี้แล้วอาการภาวะหมดไฟไม่ดีขึ้นหรือมีอาการเบื่องานจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในประจำวัน แนะนำให้พบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล
จิตแพทย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ธันวาคม 23, 2024
Social Detox  เพื่อชีวิตที่สมดุล

คนทั่วโลกใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ยประมาณ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า

ธันวาคม 23, 2024
เช็กสัญญาณซึมเศร้าหลังคลอดที่คุณแม่ควรรู้

ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อยในคุณแม่หลังคลอด ประมาณ 1 ใน 7 ของคุณแม่จะประสบกับภาวะนี้ มักเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด

ธันวาคม 23, 2024
เมื่อใจต้องเผชิญกับความสูญเสีย ดูแลใจอย่างไรให้กลับมาแข็งแรง

การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเป็นเรื่องที่ทุกคนอาจต้องเผชิญในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ความรู้สึกเศร้าและอ้างว้างที่เกิดขึ้นสามารถสร้างความท้าทาย

บทความเพิ่มเติม