เช็กด่วน! เมื่อไรที่ควรพาเด็กมาปรึกษาจิตแพทย์เด็ก

Share
สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ควรพาลูกมาพบจิตแพทย์เด็ก

พ่อแม่ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติทางจิตเวชและสัญญาณอันตรายที่อาจส่งผลต่อพัฒนาการของลูก ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ หากพบสิ่งผิดปกติ ควรรีบพาไปปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ป้องกันผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว

เช็กสัญญาณผิดปกติที่ควรพาไปพบจิตแพทย์เด็ก

เด็ก ๆ ในแต่ละช่วงวัยมีพัฒนาการทางอารมณ์ จิตใจ และความคิดที่แตกต่างกันออกไป โดยหากพบอาการที่ผิดปกติ แนะนำให้ไปปรึกษาจิตแพทย์เด็ก

อาการผิดปกติของเด็กเล็ก

อาการผิดปกติของเด็กโตและวัยรุ่น

10 สัญญาณอันตรายหรือความผิดปกติทางจิตเวชในเด็ก

สัญญาณความผิดปกติทางจิตเวชในเด็กที่พ่อแม่ควรพาลูกมาพบจิตแพทย์เด็ก เพื่อดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด มีทั้งหมด 10 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

1. ภาวะบกพร่องทางสติปัญญา

เป็นกลุ่มที่เรียนรู้ได้ช้า ทำให้มีทักษะการปรับตัว การคิด และการใช้ชีวิตที่ช้ากว่าเด็กในช่วงวัยเดียวกัน และเมื่อวัดระดับไอคิว จะต่ำกว่า 70 แนะนำให้พบจิตแพทย์เด็กเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด

2. ความผิดปกติทางด้านการสื่อสาร

ไม่สามารถพูด แสดงท่าทาง หรือตีความหมายต่าง ๆ ได้

3. ความผิดปกติของการประสานงานของกล้ามเนื้อ

ภาวะที่กล้ามเนื้อทำงานไม่สัมพันธ์กัน ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

4. ความผิดปกติของสมองในการเรียนรู้

เมื่อไรที่ควรพาลูกมาพบจิตแพทย์เด็ก

ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ โจทย์คณิตศาสตร์ และการเขียนสื่อความหมาย

5. ความผิดปกติทางด้านพัฒนาการหลายด้าน

มักมีอาการพูดช้าหรือไม่พูดเลย ไม่สามารถพูดจาโต้ตอบได้ ทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของภาวะออทิสติก (Autism Spectrum Disorder) 

6. ความตั้งใจบกพร่อง และพฤติกรรมแตกแยก

ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถอยู่นิ่งได้ สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. โรคสมาธิสั้น 2. โรคพฤติกรรมเกเรก้าวร้าว และ 3. โรคดื้อต่อต้าน หากพบว่าลูกไม่สามารถอยู่นิ่ง ๆ ได้ แนะนำให้พามาพบจิตแพทย์เด็กเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

7. ความผิดปกติในพฤติกรรมการกิน

ทั้งการรับประทานสิ่งผิดปกติ การกลืนแล้วอาเจียนออก ไปจนถึงการป้อนอาหารจนกระทั่งเด็กพัฒนาการช้ากว่าปกติ

8. ความผิดปกติของการขับถ่ายทั้งปัสสาวะและอุจจาระ

เป็นภาวะที่เด็กไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายของตนเองได้ หรือกลั้นไม่อยู่ มักเกิดในช่วงเวลากลางคืน

9. อาการกระตุกของกล้ามเนื้อต่าง ๆ อย่างไม่เป็นจังหวะ

ทำให้มีอาการกระตุกซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ซึ่งจะมีทั้งแบบชั่วคราว และแบบเรื้อรัง ควรพาไปพบจิตแพทย์เด็กเพื่อทำการรักษาต่อไป

10. ความผิดปกติอื่น ๆ

อาจจะเกิดจากความกังวล โดยแกล้ง ซึ่งผู้ปกครองจะต้องสังเกตว่าเด็ก ๆ มีพฤติกรรมที่ผิดไปจากเดิมหรือไม่ อย่างเช่น การกัดเล็บ หรือดูดนิ้ว

จิตแพทย์เด็กมีหน้าที่อะไรบ้าง

จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นมีหน้าที่หลักในการตรวจวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม และพัฒนาการในเด็กและวัยรุ่น โดยทำงานร่วมกับเด็กและครอบครัวอย่างใกล้ชิด

การตรวจประเมินและวินิจฉัย 

จิตแพทย์จะรวบรวมข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อทำความเข้าใจปัญหาของเด็กอย่างแท้จริง

การวางแผนและให้การรักษา

หลังจากวินิจฉัยแล้ว จิตแพทย์จะวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน ซึ่งประกอบด้วยหลายวิธีร่วมกัน

ดูแลรักษาโรคจิตเวชเด็กอย่างเข้าใจที่ แบงค็อก เมนทัล เฮลท์

จากประสบการณ์ส่วนตัวของหมอ ความผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อยที่เด็กส่งสัญญาณมาอาจเป็นเพียงยอดภูเขานเำแข็งที่เด็กเลือกที่จะเปิดเผย ในความรู้สึกของผู้ปกครองที่คิดว่าเรื่องเล็กน้อยเล็กนิดเดียว อาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่มากกว่านั้น เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือการใส่ใจรับฟังและให้ความสนใจเขาในเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือและความสนใจ เพราะหากปล่อยให้ปัญหารุนแรงและซับซ้อนมากเกินไป เด็กของเราอาจจะสูญเสียตัวตน เวลา และโอกาสที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามวัย

สำหรับผู้ปกครองที่กำลังมองหาโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อดูแลปัญหาสุขภาพจิตของลูก โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH) โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านสุขภาพจิต ในเครือโรงพยาบาลเวชธานี มีจิตแพทย์เด็กที่มากประสบการณ์พร้อมให้การดูแลรักษา ซึ่งผู้ปกครองที่กำลังคิดว่าจะพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็กหรือจิตแพทย์วัยรุ่นที่ไหนดี สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษากับจิตแพทย์เด็กได้ที่เบอร์ 02-589-1889

นัดหมายเข้าพบจิตแพทย์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

โทรศัพท์: 02-589-1889

LINE Official Account: @bmhh

Location: https://maps.app.goo.gl/MCKXwQMK1mCshWKdA

บทความโดย

พญ.ปัทมาพร ทองสุขดี
จิตเวชเด็กและวัยรุ่น
โรงพยาบาลแบงค็อก เมนทัล เฮลท์ (BMHH)

บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความเพิ่มเติม