ความเครียดเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในทุกเพศทุกวัย จากการใช้ชีวิตที่มีความกดดัน และความคาดหวังในชีวิตสูง ทำให้บางคนมีอาการเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ลำไส้แปรปรวน แผลในกระเพาะอาหาร อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ โรคหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ และยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เช่น โรคซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน โรควิตกกังวล
การตอบสนองของร่างกายต่อความเครียด
- สารสื่อประสาท คือความเครียดจะทำให้สารสื่อประสาทเสียสมดุล เมื่อพบความเครียดเรื้อรัง ร่างกายจะปรับตัวให้ทนกับความเครียดเดิม แต่ถ้าเจอความเครียดเรื่องใหม่จะมีการตอบสนองที่ไวมากกว่าเดิม
- ระบบต่อมไร้ท่อ ความเครียดจะเพิ่มการหลั่งฮอร์โมน ส่งผลให้มีการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น ยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ระบบสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต
- ระบบภูมิคุ้มกัน ความเครียดจะยับยั้งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
การรักษาความเครียดมีทั้งการรักษาด้วยยาและการทำจิตบำบัด
- การรักษาด้วยยา จิตแพทย์อาจสั่งยาต้านเศร้า ยาคลายกังวล ยาปรับอารมณ์ เพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรค
- การทำจิตบำบัด เป็นวิธีการรักษาที่ใช้การพูดคุยระหว่างผู้ป่วยและจิตแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของตัวเอง เพื่อเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียด และพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต
สำหรับการป้องกันความเครียด สามารถทำได้โดยการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายรับมือกับความเครียดได้ดีขึ้น, ฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ การนั่งสมาธิ โยคะหรือไทเก็ก, ไม่คิดเชิงลบ หมั่นคิดบวกและขอบคุณสิ่งดี ๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน, เรียนรู้ที่จะปฏิเสธงานเพิ่มหากยุ่งหรืองานหนักเกินไป, ทําสิ่งที่ทําให้เรายิ้มได้และเรียนรู้ที่จะยอมรับว่าเราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ และติดต่อกับคนที่เรารัก เพื่อน หรือคนที่ทําให้เราหัวเราะได้ พวกเขาเหล่านี้สามารถเป็นแรงสนับสนุนจิตใจทำให้เราก้าวผ่านปัญหาไปได้ และทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
อย่างไรก็ตาม ความเครียดเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่หากสามารถรับมือกับความเครียดได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงได้ แต่ถ้าความเครียดส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตแนะนำให้มาปรึกษาจิตแพทย์เพื่อพูดคุยและเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 วิธีสังเกตอาการซึมเศร้าซ่อนเร้น
อาการซึมเศร้าอาจแฝงตัวอยู่ในพฤติกรรมที่ดูปกติ แต่กลับส่งผลกระทบลึกซึ้งโดยไม่ทันรู้ตัว การเรียนรู้ที่จะสังเกตและเข้าใจสัญญาณ
ปลดล็อกศักยภาพ พร้อมเผชิญหน้ากับ Impostor Syndrome
ใครเคยเป็นบ้าง รู้สึกไม่มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง ต่อให้คนอื่น ๆ จะชื่นชมเราแค่ไหน ก็มักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า “เราดีจริงๆ
“สุขภาพจิตของครู”
วันที่ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันครูแห่งชาติ วันที่ทุกคนหันมาระลึกถึงความสำคัญของครูผู้เป็นเสาหลักในการสร้างสรรค์อนาคตของชาติ
Talk to Doctor
Call Us
Line BMHH